Cockfighting in Thailand
การพนันไก่ชนของไทย
ประวัติการตีไก่ชนของไทย
กีฬาไก่ชน ในประเทศไทยเป็นกีฬาพื้นบ้านที่มีมาอย่างเก่าแก่ช้านาน สมัยก่อนเป็นที่นิยมอย่างมากและเล่นกันทุกชนชั้น ไม่ว่าจะเป็นบ่าวไพร่ สามัญชน เจ้าขุนมูลนาย จนถึงกษัตริย์ ดังเช่นสมัยพระนเรศวรมหาราชเป็นต้น โดยการนำไก่ตัวผู้ 2 winbet2u ตัว มาตีกัน จนจะมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเป็นฝ่ายชนะ ไม่ได้มีกติกาอะไร ไม่มีการพันเดือย ไม่มีเวที เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะก็ถือว่าจบการแข่งขันตีไก่ชนซึ่งก็จะมีการวางเดิมพันผู้ชนะกันมาโดยตลอด และในยุคต่อๆมาเมื่อกีฬาไก่ชนได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จนได้มีการตั้งกฏกติกาในกีฬาไก่ชน และพัฒนามาอยู่เรื่อยๆ http://www.55winbet.com/th/th-th/
ต่อมากีฬาไก่ชนได้รับความนิยมกันเป็นอย่างมาก จึงเกิดการสร้างสนามการขันแข่งกีฬาไก่ชนกันอยากมากมาย จึงได้มีการตั้งกฏกติกาขนไก่ให้เป็นกีฬาที่ได้มาตรฐานดังนี้
กฏกติกาของการตีไก่ชน
-
จะต้องมีการนำไก่ชนที่จะลงแข่งขัน มาชั่งน้ำหนัก และลงทะเบียนทำประวัติสายพันธุ์ให้เรียบร้อย
-
จะต้องมีการเปรียบไก่โดยใช้น้ำหนักและความสูงของไก่เป็นเกณฑ์
-
ไก่ชนที่จะแข่งขันจะต้องสวมเดือย ด้วยนวมมาตรฐานของทางสนามชนไก่
-
การเข้าปาก การเสริมปีกไก่ สามารถทำได้ก่อนเริ่มการแข่งขัน
-
ใช้เวลาการแข่งขัน เป็นจำนวนยก ในแข่งขันคือ 5 ยก (เรียกว่า อัน) ยกละ 10 นาที ให้เวลาพักยก 2 นาที
-
การให้น้ำไก่ จะต้องให้น้ำไก่ในถาดมุมของตนเอง ภายในบริเวณสนามชนไก่ โดยให้ใช้อุปกรณ์ที่ทางสนามแข่งขันจัดให้เท่านั้น
-
ไม่มีการอนุญาตให้ ทั้งสองฝ่ายทำการไขหัว ถ่างตา และเย็บแผล ระหว่างทำการพักยก
-
ห้ามใช้น้ำมันยาหม่อง และสารเคมีใดๆทั้งสิ้น รวมถึงยาโด๊ปกับไก่ที่ทำการแข่งขัน หากทางสนามได้มีการตรวจพบ จะถูกปรับให้แพ้ทันที
-
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการแข่งขัน เช่น ข้าวสุก ขนไก่แยงคอ น้ำ ให้ใช้ของจากสนามแข่งขันเท่านั้น
การตัดสินผลแพ้ชนะในกีฬาไก่ชน
-
ไก่แพ้วิ่งหนี หันหลังไม่ยอมสู้ 3 ครั้ง ให้ถือว่าฝ่ายที่หนีเป็นฝ่ายแพ้
-
ไก่นอนหรือหมอบ เมื่อจับให้ลุกขึ้นสู้แล้วไม่ยอมสู้ ให้ถือว่าเป็นฝ่ายแพ้เทคนิคัลน็อกเอาท์(TKO)
-
ไก่ปากหลุด ปากถอดหรือหักปล้องอ้อย ไก่ตาปิดมีเลือดเข้าตา หรือมีบาดแผล ให้อยู่ในดุลยพินิจของกรรมการ หรือนายสนาม ถ้าเห็นว่าไม่สมควรทำการแข่งขันต่อไป นายสนามก็จะทำการยุติการแข่งขัน ไก่ที่ได้รับบาดเจ็บให้ถือว่าแห้ อาร์เอสซี(RSC)
-
เจ้าของไก่ที่ทำการแข่งขันสามารถยอมแพ้ได้ เมื่อเห็นว่าไก่ชนของตนไม่อยู่ในสภาพที่จะสามารถทำการแข่งขันต่อไปได้ ให้เจ้าของไก่ฝ่ายดังกล่าว โยนผ้าขาวยอมแพ้